[แชร์ประสบการณ์] วิ่งข้ามคืนเขาฉลากยันสว่าง (ครั้งแรก) ⛰

Pennapha Anuhanayonn
4 min readMar 26, 2021

--

อยากไปโดนเขาฉลากข้ามคืนมานาน แต่ก็ขี้ขลาด กลัวความมืด กลัวผี กลัวงู กลัวลิง กลัวทุกอย่างแหละ ก็มันมืด สารภาพจากใจเลยค่ะว่าเป็นคนกลัวผีมากและทนความมืดไม่ได้จริงๆ ขนาดหนัง Kingdom ใน Netflix ยังต้องเก็บไว้ดูตอนกลางวัน แม้แต่ละครพิภพหิมพานต์ ช่อง3 ดูคนเดียวก็ยังทำไม่ได้เลย

หลังจากที่ลั่นสมัคร CM3 ไป ก็ตั้งใจแล้วว่าต้องไปซ้อมวิ่งมืดๆ ดูบ้าง แต่ก็นั่นแหละ … ว่าจะไปๆ เทบ้าง ซึ่งช่วงนี้ก็ประจวบเหมาะกับกลุ่มวิ่งน้อยฯ (ที่จริงๆ ก็วิ่งกันไม่ค่อยจะน้อยสักเท่าไหร่) จัดกิจกรรมเก็บความชันและนัดกันไปวิ่งข้ามคืนเขาฉลาก ไอ้เราก็ส่องๆ อยู่ในกลุ่มไลน์ อยากไปอ่าาา

อยากไปลองสัมผัสประสบการณ์วิ่งมืดๆ ว่ามันจะให้ความรู้สึกยังไงนะ อยากเทสไฟส่องกบ (Headlamp) ที่ซื้อมาใหม่ด้วยแหละ ที่ตอนนี้ใช้ประโยชน์สูงสุดแค่เพียงส่องหาของใต้บันไดมืดๆ เท่านั้น

Black Diamond 400LM

หลังจากตัดสินใจ เลยลงชื่อไป มีเพื่อนในกลุ่มทักมาและให้คำแนะนำต่างๆ ด้วย ต้องขอบคุณมากๆ ถ้าแกเข้ามาอ่านก็คงรู้ตัวแหละ ฉันเตรียมเสื้อไปเปลี่ยนหลายตัวตามคำแนะนำของแกด้วย ไม่ได้ใช้สักตัว เน่าเหงื่อยันเช้า

ปักเป้าหมายสัก 50km ไว้ในใจ เพราะเคยพา 2 ขาตัวเองไปไกลสุดได้เท่านี้ (เมื่อปีที่แล้วที่เขายายดา) แต่ … ทำได้จริงเท่าไหร่ค่อยว่ากันอีกทีนะ เผื่อร้อน ร่างกายงอแง ง่วง ตื่นผี ตื่นความมืด ค่อยว่ากันอีกทีเนอะ

เห็นน้องในกลุ่มโพสว่า 11 ยอดจะได้ประมาณ 50km

โอเค … 11 ยอด วนๆ ไปก็ได้ มันก็คงจะน่าเบื่อหน่อยแหละ แต่ทางดำอย่างเดียวนะ ทางเทรลไม่สู้จริงๆ กลัว

จากนั้นก็เรื่องที่พัก ต้องขอขอบพระคุณพี่วิและเพื่อนนุ้ยช่วยแนะนำที่พักให้ บรรยากาศดี น้ำแรง สระผมสนุกดี

Khao Chalak — Si Racha

แผนการวิ่งคือ เริ่มเย็นวันศุกร์ตอนแดดร่มแล้ว ข้ามไปสวัสดีพระอาทิตย์ยามเช้าในวันเสาร์ ขึ้นเขาก็เดิน-ลงเขาก็วิ่ง เจ็บก็เดินไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ เป้าหมายเหมือนทุกๆ ครั้งที่วิ่ง คือขาต้องไม่พัง วิ่งเสร็จต้องเดินเที่ยวเล่นได้ ต้องไม่เดิน-ขึ้นลงบันไดเป็นเป็ด ให้ใครได้หัวเราะ

การเตรียมตัว แน่นอน … ก็โด๊ปกาแฟสิจ๊ะ จัดไปตั้งแต่ศุกร์ตอนเช้า ทำงานไปจิบไปเรื่อยๆ ให้มันซึมเข้าเส้น ตอนไปซื้อเน้นย้ำกับน้องพนักงานด้วยนะ พี่ขอเข้มๆ แบบอยู่ได้ยันสว่างน่ะ

อีกเรื่องที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด คือ … สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาจดูเหมือนเป็นคนบาปที่ไม่ห้อยพระ วัดก็ไม่ค่อยเข้า แต่ในยามนี้แล้ว ถือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็ได้รับความอนุเคราะห์หลวงพ่อเกษมจากพี่โอ๋มาเนี่ยแหละ ขออนุภาพหลวงพ่อครอบคลุมทั่วทั้งเขานะเจ้าคะ สาธุๆ

วันศุกร์ตอนบ่ายๆ เราก็ขับรถมาดูโลเคชั่นวิ่งกันก่อน ที่จอดรถตรงนี้นะ ห้องน้ำตรงนี้นะ

โลเคชั่นจอดรถดีย์ ด้านหลังมีสุสาน

ก่อนที่จะวนรถกลับ เอ … นี่มันน้องหมอว่าว สาวน้อย นักวิ่งร้อย ผู้ชอบเดินเล่นนี่นา พี่จำชุดได้ ทำไมถึงเปิดศึกเร็วนักล่ะจ๊ะ อยากจะเปิดกระจกรถตะโกนทักทาย (อ่อ … จริงๆ ยังไม่เคยเจอน้องตัวเป็นๆ เลยนะ เจอกันแต่ในกลุ่มวิ่ง ทักกันไปมา แล้วก็มาเป็นเพื่อนกันใน fb) แต่เพิ่งเปลี่ยนฟิลม์กระจกข้างมาใหม่ กดกระจกลงไม่ได้ค๊าบ ได้แต่ถ่ายรูปทักไปแซว สักพักน้องตอบกลับ … 5 ยอดแล้วจ้า จะเก็บ 100km เขาฉลากจริงดิ เด็กๆ สมัยนี้มันโหดวุ้ย

แอบถ่ายน้องหมอว่าว สาวน้อย วิ่งร้อย ผู้ชอบเดินเล่น

เริ่มออกสตาร์ทเกือบ 6 โมงเย็น แถมยังเจอแก๊งลิงยังเล่นอยู่ที่ตีนเขา ซวยจริง กลัวอ่า ไม่รู้จะต้องทำตัวยังไงดี จะไปต่อหรือนั่งรอก่อนดีนะ ได้แต่ยืนนิ่งๆ สังเกตอาการคนอื่นที่เดินผ่านไปมา

เอ … ก็ดูปกติ น้องลิงไม่ได้เกเรนี่หว่า คนเดินผ่านไปมาก็ไม่ได้แคร์ลิงด้วย ไป!! ไปก็ไปวะ

บรรยากาศตอนเย็นดีนะ มีคนขึ้นเขาเดินออกกำลังกายเยอะแยะเลย เดี๋ยวคนเมืองจะไม่เข้าใจ ที่นี่อารมณ์เหมือนสวนสาธารณะในกรุงเทพนั่นแหละ แต่คนที่นี่เค้าเดินขึ้น-ลงเขา เพื่อออกกำลังกายกันไง คูลอ่า อย่างแข็งแรงเลย

อัพฮิล เดินชมวิว แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีน้องหมาทักทายเป็นระยะ น้องหมาที่นี่ดีนะ น่ารักดี ไม่ดุ วันหลังถ้ามาอีก พี่เจ๋จะพกอาหารเม็ดมาแจกนะ

ส่วนเส้นทางขึ้นเขาเป็นทางราดยางสลับทางปูน ทางดีเลยแหละใส่รองเท้าโรดมาก็ได้ ใครอยากใส่รองเท้าเทรลมาก็แล้วแต่ ส่วนใครที่กลัวจะหลง อันนี้ไม่ต้องห่วงเลย มีอยู่ทางเดียว ตรงๆ 4 โค้ง เดี๋ยวก็ถึง

ส่วนใครเผลอเข้ามาอ่านแล้วสนใจอยากจะมาออกกำลังกาย แนะนำว่าพกน้ำขึ้นมาสักหน่อย เผื่อร้อน บนยอดเขาฉลากไม่มี CP เถื่อนให้ซื้อน้ำเหมือนเขายายดาและที่สำคัญ รักษาความสะอาดอย่าทิ้งขยะข้างทางด้วย เอาขยะขึ้นมา ก็นำลงไปด้วย เข้าใจเนอะ

ระยะจากตีนเขาไปถึงยอดก็ 2km นิดๆ ความชันการ์มินจับได้ประมาณ 250m พอถึงยอดเอาแตะมือที่รั้วสักหน่อยเป็นอันเสร็จพิธี ส่วนใครจะนั่งพักหรือจะยูเทิร์นลงเขามาเลยก็ได้ ทางเดิมนั่นแหละ

ขาลงมันก็จะมันส์ๆ หน่อย วิ่งลงเขาสนุกมากๆ สับเพซ6 ลงมาเลยแหละ แต่แค่ยอดแรกๆ อ่านะ ยอดหลังๆ ก็เริ่มเดินแล้ว พอถึงตีนเขาจับได้ระยะ 4km หน่อยๆ จากนั้นก็แวะเข้า CP หลักของเรา ซึ่งก็คือท้ายรถนั่นแหละ เตรียมเสบียงมาเพียบ ทั้งน้ำ เจล เกลือแร่ น้ำมะพร้าว น้ำอัดลม ขนม ของกินต่างๆ รวมถึงกาแฟด้วย ก็ไม่อยากจะเป็นภาระให้พี่ๆ กลุ่มวิ่งน้อยฯ เค้า เรามาคนเดียวก็ต้องดูแลตัวเองหน่อย ยิ่งหิวเก่งไป อยู่ด้วย

สภาพหลังรถ เอาของกินมาเพียบ ขนกลับบ้านเพียบเหมือนกัน

พอเริ่มค่ำรถก็จะมาจอดกันเยอะขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีนะเพราะนั่นหมายความว่ายังมีเพื่อนอยู่กับเราอีกเยอะ

พักสักแป๊บให้หายเหนื่อยก็กลับขึ้นไปอีกรอบ รอบนี้ติด headlamp ขึ้นไปด้วย พอฟ้าเริ่มมืดหน่อยยังมองเห็นทาง ก็เริ่มตีสนิทกับคนพื้นที่ที่เดินผ่าน ชวนคุยบ้างแหละ พี่มาจากไหน มาออกกำลังกายบ่อยไหม ทำเป็นส่องไฟให้บ้าง หาเพื่อนคุยไปเรื่อยให้หายเหงา จริงๆ คือกลัวแหละ

เวลาในภาพประมาณ ทุ่มครึ่ง น่าจะได้สัก 2 ยอดแล้ว

ขึ้นๆลงๆ ประมาณยอดที่ 3–4 ก็เริ่มเจอพี่ๆน้องๆ กลุ่มวิ่งน้อยฯ มากันเยอะขึ้น รอบนี้มีพี่นิชแอนด์เดอะแก๊งไปด้วย เริ่มหายเหงาแล้วแหละ ความจริงก็เพิ่งเจอพี่ๆ ตัวเป็นๆ ครั้งแรก พบเจอกันแต่ในกลุ่มไลน์และใน fb ทักกันไป แซวกันมา ตัวจริงน่ารักและเป็นกันเอง

ขอยืมรูปของพี่ๆ กลุ่มวิ่งน้อยฯ มาประกอบหน่อยนะคะ

พอเริ่มดึกคนก็ชักเริ่มน้อย นานๆ จะมีเพื่อนสวนทางพอให้ได้อุ่นใจ แต่ยังไงก็ยังมีน้องหมอว่าวอยู่แน่นอน (มั่นใจ) ตอนนี้ไม่มีเพื่อนเกาะให้ได้คุยแล้ว เหงา แต่ก็มีแผนสำรองเตรียมมานะ playlist spotify มันส์ๆ EDM จัดๆ มาปลุกใจ วิ่งไป ตื๊ดๆ

กลับมาเรื่องความส่องสว่างของไฟส่องกบ Black Diamond 400lm กันบ้างดีกว่า เปิดสว่างสุดก็ได้ประมาณนี้แหละ จริงๆ มันมีหลายโหมดนะ แต่เราขอไฟแรงๆ โฟกัสที่ทางเนอะ ตรงอื่นไม่ต้องไปมองมันหรอก เดี๋ยวเจอ จากการทดสอบใช้งานเกือบ 8–9 ชั่วโมงเริ่มหรี่ละ

ภาพตอนเวลา 5 ทุ่ม

สภาพเจ๋บนยอดเขาฉลากตอนเที่ยงคืน … หน้าเหียกแล้ว พบข้อดีของการวิ่งกลางคืนแล้ว ไม่ร้อน มีลมเอื่อยๆ ให้พอได้กางแขน ผ่อนคลายน้องเต่าได้บ้าง

ส่วนบรรยากาศเมื่อถึงยอดเขาแล้วมองลงไปด้านล่าง … เหมืองดาวระยิบระยับเลย สวยดี ยังจะมีอารมณ์สุนทรีย์อยู่อีกนะ

วิ่งขึ้นวิ่งลงจนถึงตีหนึ่ง ซึ่งก็ยังคงวิ่งคนเดียวอยู่ น่าจะเป็นจุดที่รู้สึกวังเวง และเริ่มกลัวที่สุดแล้ว จับพระที่ห้อยคอเป็นระยะๆ สมองมันก็ชักจินตนาการ เริ่มเพ้อเจ้อแล้ว

วิ่งจบแล้วมาเล่านี่ดูเหมือนจะตลก แต่สภาพความจริงตอนนั้นนี่คือกลัวขนลุกเลยนะ

บรรยากาศตอน ตี 1 ครึ่ง

ประมาณยอดที่ 8–9 ก็เหมือนมีนางฟ้ามาโปรด มีน้องตุ๊กมาเป็นบัดดี้วิ่งด้วย น้องชวนคุยเก่ง สนุกมาก ชวนคุยไปเรื่อย ป้ายยาบ้าง ชวนไปวิ่งบ้าง ตอนนี้พี่ไม่กลัวผีแล้วแหละวิ่งยันสว่างแน่นอน (น้องตุ๊กป้ายยาไฟส่องกบอีกยี่ห้อนึงด้วยนะ ซึ่งตอนนี้พี่ก็ซื้อแล้ว)

อ่อ … สาวหน้าแน่น สาวสวยแห่ง KCNF ก็มาด้วยนะ หน้าเด้งจากความมืดออกมาเลย งานเสื้อคู่ก็มาจ้า เราหน้าเหียกแล้วแต่ลูกเกดหน้ายังแน่นตามเคย เราควรชินได้แล้ว 555+

นักวิ่ง KCNF และติ่ง KCNF งานเสื้อคู่ ดูก็รู้ว่าใครคู่ใคร

หลังจากได้บัดดี้ เราก็ต๊ะตอนยอนไปด้วยกันเรื่อยๆ ขาขึ้นก็เดิน ขาลงก็เดิน ไม่เน้นเวลาเนอะ เซฟขากันไว้ก่อน จบตามเป้าเป็นพอ ช่วงหลังๆ น้องตุ๊กคนช่างคุยของเราก็เริ่มเงียบ ชักจะไม่ชวนคุยละ น้องง่วงจ้า เริ่มเข้าโหมดออโตไพล็อตพร้อมแลนดิ้งลงเขา ปลุกๆ กันไป กลัวน้องกลิ้งตกเขาหน่ะ

จนประมาณ 6 โมงเช้า ฟ้าเริ่มสว่าง นี่เราอยู่ยันหว่างจริงๆ เหรอเนี่ยไม่อยากจะเชื่อเลย

บรรยากาศ 7 โมงกว่าๆ ยอดสุดท้าย กับภาพพระอาทิตย์สะท้อนกับผิวน้ำ สวย

น้องตุ๊กยอดรองสุดท้ายและพี่เจ๋ยอดสุดท้าย กำลังจะทิ้งน้องตุ๊กไปพักผ่อนแล้วนะจ๊ะ ชุดเดียวไม่มีเปลี่ยนยันสว่างจริงๆ เปียกทั้งตัวแล้วจ้า

ขาลงรอบสุดท้ายก็เริ่ม take a photo กับเพื่อนๆ พี่ที่วิ่งผ่านซะหน่อย ขอบคุณทุกรอยยิ้มที่มีให้กันตอนฟ้าสาง หวังว่าจะมีโอกาสได้เจอทุกๆ คนอีกครั้งน ข้ามคืนเขาหลากครั้งแรก สนุกจริงๆ ถ้ามีโอกาสคงต้องมาอีกแน่นอน

เจ๋อาจจะหน้าเหียกไปหน่อย ต้องขออภัย ^^”

แฮร่!! ว่าจะกลับ แต่พี่หนึ่งชวนดริ้งกาแฟ แถมเจอลูกเกดอีก หน้าแน่นอีกแล้วดูความแตกต่างที่หน้าเราสิ สนทนากันสักแป๊บแล้วก็แยกย้ายกลับไปอาบน้ำดีฟ่า

ขอบคุณพี่หนึ่งที่เลี้ยงกาแฟนะคะ

สุดท้ายนี้ … อยากจะบอกว่าไม่คิดเลยว่าจะอยู่จนสว่างได้ ไม่คิดว่าร่างกายตัวเองจะไหวด้วยซ้ำ คงเพราะกิจกรรมกลุ่มวิ่งน้อยนั่นแหละ ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น 2–3 เดือนมานี้กิจกรรมแน่นมาก แน่นมากเหมือนว่างวิ่ง งานก็ต้องทำ วิ่งก็ต้องวิ่ง

สำหรับข้อดีเขาฉลาก รอบสั้น ไม่ต้องพกอะไรไปเยอะ น้ำขวดเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องแบกเป้น้ำด้วยสบายเลย ถนนดีไปได้เรื่อยๆ แต่โค้งสุดท้ายเหนื่อยหน่อย ทำใจทุกรอบ ตอนเช้าๆ ของกินเพียบ ใครอยู่ยันสว่างสบายเลยและที่สำคัญเพื่อนเพียบ เขาฉลากแฟชั่นวีคจริงๆ มีคนมาเดินสับ ซ้อมวิ่งเยอะไม่เหงาเลย

สำหรับข้อเสีย เราว่าห้องน้ำแหละ ห้องน้ำที่ไหนก็ไม่ประทับใจเท่าวัดเขาชะโงก สะอาดจนอยากนั่งพื้น

  • ขอบคุณน้องตุ๊กที่มาเป็นบัดดี้ วิ่งด้วยกัน ดีกว่าวิ่งคนเดียวเหงาๆ เนอะ
  • ขอบคุณหลวงพ่อเกษมจากพี่โอ๋ อบอุ่นใจจนฟ้าสางจริงๆ รอบหน้าถ้ามาอีก ขอเช่า
  • ขอบคุณพี่นิชและเพื่อนๆ กลุ่มวิ่งน้อยฯ ทุกท่านที่วิ่งผ่าน ให้กำลังใจและทักทายนะคะ

สำหรับใครที่ต้องการมาลิ้มลองวิ่งข้ามคืนเขาฉลาก อย่างแรกก็คงต้องเตรียมกายเตรียมใจ เตรียมอาหาร ของกินมาให้พร้อม เพราะกลางคืนไม่ของกินขายนะจ๊ะ แล้วก็ทิ้งขยะเป็นที่เป็นทางด้วยล่ะ

คลิปประกอบใน Relive : https://www.relive.cc/view/vWqBnp7njYq

--

--