Marathon on Zwift - มาราธอนที่ 2 บนลู่วิ่งในบ้าน

Pennapha Anuhanayonn
4 min readJun 5, 2020

--

หลังจากที่จบมาราธอนแรกที่งาน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2020 (ATMBKK2020) ไปเมื่อวันที่ 02.02.2020 วิ่งฝ่าฝุ่นละออง PM 2.5 และใช้เวลาไปเกือบ 6 ชั่วโมงครึ่ง ความคิดหลังวิ่งจบก็คือดีใจแหละ แต่ก็ไม่เอาแล้วเนอะ

COVID-19

หลังจากที่จบมาราธอนไปไม่นานก็เกิดสถานการณ์โควิด-19 อย่างที่เราทราบๆ กันทำให้การวิ่งในสวนสาธารณะเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัย

เริ่มจากที่ต้องวิ่งอย่างกล้าๆ กลัว รักษาระยะห่างระหว่างวิ่งกันไป จนสุดท้ายสวนสาธารณะก็ต้องปิดในที่สุด

ยัง … ชีวิตมันยังไม่จบอยู่เท่านั้น

แม้แต่กับการทำงาน ก็ต้องเปลี่ยนเป็นการทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home : WFH) 100% ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ทีนี้ล่ะไม่ต้องออกไปไหนกันแล้ว … อยู่จนเบื่อบ้านไปเลย

Workout at Home

ช่วงแรกที่โควิดระบาดใหม่ ๆ ก็เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ทำงาน เน้นนอนดูซีรีย์ และช็อปปิ้งออนไลน์เป็นหลัก (อันนี้หนักมาก) แทบจะอยู่ในบ้าน 99% เลย

แต่ผ่านไปสักพักก็รู้สึกว่า … ไม่ค่อยสนชื่น เพราะปกติใน 1 สัปดาห์ อย่างน้อย 2–3 วัน จะต้องได้ออกกำลังกายบ้างแล้ว

หลังจากที่มีการระบาดของโรคหนักขึ้นก็มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับเหล่านักวิ่งที่ต้องปรับตัวมาวิ่งออกกำลังกายในบริเวณบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งรอบเตียง วิ่งบนระเบียง วิ่งรอบโรงจอดรถ หรือวิ่งรอบสวนในบ้านเป็นต้น

ซึ่งแต่ละท่านไม่ธรรมดานะคะคุณ มาราธอนรอบเตียงกันบ้าง รอบโรงจอดรถกันบ้าง เลยไปถึงอัลตร้ากันเลยก็มี ก็เลยลองนำมาปรับใช้ดูบ้าง โดยเน้นการคลายความเครียดเป็นหลัก

แต่ด้วยความที่บ้านหลังเล็ก พื้นที่จำกัด ก็ต้องใช้ความอดทนและใช้เวลาอย่างมาก วิ่งวนไปวนมา กับกระเบื้องสิบกว่าแผ่น เพซก็แทบไม่ขยับอาจจะเพราะใช้นาฬิกาโหมด running ด้วย เลยจับ GPS ไม่ค่อยไดเ

โชคดีที่ที่บ้านมีลู่วิ่ง ก็มีแอบนอกใจไปวิ่งลู่ดูบ้าง แต่ก็รู้สึกว่าการวิ่งลู่มันค่อนข้างจะน่าเบื่อ ถ้าไม่มีหนังมันส์ๆ ดูสักเรื่อง 5km ก็ถือว่าเบื่อเต็มที่แล้ว

ส่วนช่วงเวลาในการออกกำลังกาย จะเป็นช่วงเย็น check out เลิกงานปุ๊บ ก็ใส่รองเท้าวิ่งเลย เคยลองวิ่งแบบไม่ใส่รองเท้าด้วย ปรากฎว่า … นิ้วพอง

สงสัยตอนกลับตัวจะเบรคแรงไปหน่อย

ในระหว่างที่วิ่งเก็บตัวเก็บใจอยู่ที่บ้าน เราส่อง Facebook ไปเรื่อยๆ ด้วยความเหงา ก็ค้นพบการวิ่งรูปแบบใหม่ นั่นก็คือ Zwift Run

Zwift Run คืออะไร ?

ก็คือการวิ่งบนสนามจำลองหรือจะเรียกว่า Virtual Road ก็ได้ มีเพียงแค่ลู่ไฟฟ้าและ Foot Pod โดยเชื่อมกับ Application ที่ชื่อว่า Zwift Run บนมือถือหรือ PC แค่นี้ก็วิ่งได้แล้ว

สำหรับคนที่ไม่มี Foot Pod ก็สามารถวิ่ง Zwift Run ได้ ถ้าใช้นาฬิการุ่นที่สามารถ pair กับ application ได้ หรือรองเท้าบางแบรนด์ที่ฝังชิปก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

ก่อนวิ่งอันดับแรก ก็ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์กับ Foot Pod ก่อน เพื่อเอาไว้ดูความเร็ว (speed) แล้วก็รอบขา (cadence) ส่วน heart rate อันนี้เชื่อมต่อกับนาฬิกา โดยใช้โหมด Virtual Run

ที่สำคัญ อย่าลืม Calibrate Foot Pod กับลู่วิ่งด้วยนะ (ตรงปุ่มไขขวง) เพื่อความแม่นยำในการวิ่ง วิธีทำก็ง่ายมากลองดูที่ Official Site แล้วกันเนอะ

อ่อ … ติดตัว Foot Pod ไว้ที่รองเท้าเด้อ แบบนี้ๆ

พอเข้าแอฟมาแล้ว (ต่อไปจะเรียกเกมส์นะ) ก็สามารถเลือกสนามวิ่งที่เราสนใจได้ ไม่ว่าจะเป็น Watopia,Yorkshire , Innsbruck หรือ Richmond

ชอบวิวระยะไหน เส้นทางแบบไหน ก็กดเลย …

ทดสอบวิ่งเล็กน้อยก็รู้สึกว่า … วิวในเกมส์สวยดี

ครั้งแรกที่ลองวิ่ง ต้ังใจว่าจะลองวิ่งสัก 15km ก็น่าจะเบื่อแล้ว วิ่งไปเรื่อยๆ ก็ตื่นตาตื่นใจกับวิวในเกมส์ดี ทั้งเสียงทั้งภาพ ต้นไม้ ดอกไม้ น้ำพุร้อน อุโมงค์ใต้น้ำ ชายหาด ริมทะเล วิ่งๆ ไปมีฝนตกด้วยนะ

บางทีวิ่งผ่านเส้นทางทีเป็นหินเป็นลูกรังแล้วมีแก๊งค์จักรยานวิ่งกันเยอะ ๆ มีฝุ่นฟุ้งตลบเลย เอากับเค้าสิ

ในส่วนหน้าจอ มุมขวาบนจะแสดงความชันในเส้นทางที่วิ่งให้ด้วย โดยสามารถปรับความชันลู่วิ่งตามได้ เพื่อความเหนื่อยและความโหดที่สมจริง (แต่เราไม่กดนะ)

ระหว่างวิ่งก็จะเห็นเพื่อนๆ ที่วิ่งหรือปั่นจักรยานจากประเทศต่าง ๆ กด Like ให้กำลังใจกันเต็มไปหมด คนไทยก็เล่นเยอะอยู่เหมือนกัน

วิ่งไปเพลินๆ ก็ไปจบที่ 30km เฉยเลย เฮ้ย…สนุกอ่ะ

ครั้งแรกมันก็จะตื่นเต้นแบบนี้แหละ 555+

วิ่งเสร็จก็สามารถ Sync ข้อมูลการวิ่งเข้าแอฟ Garmin ได้ด้วย แต่ต้อง connect ที่ Companion App ก่อนเพื่อส่ง stat วิ่งไป

Companion vs Garmin Connect

วิ่งจบ 30km ก็มีความคิดขึ้นมาว่า … อีกสิบกิโลหน่อยๆ ก็จะถึงมาราธอนแล้วนะ อาทิตย์หน้าต้องลองสักหน่อยแล้ว

Marathon #2

ตัดสินใจเลือกเส้น “Big Loop” ซึ่งอยู่ใน Watopia มีระยะทางใกล้เคียงมาราธอนที่สุดแล้ว คือ 42.6km ชอบเส้นทางนี้เพราะเป็นแนวป่าๆ แฟนตาซีหน่อย

การเตรียมตัวก่อนวิ่งก็นอนให้พอ วอร์มร่างกายก่อนวิ่ง ที่สำคัญก็กินให้พอด้วย

  • วอร์มลู่วิ่ง (เปิดลู่วิ่ง Speed 4–5 ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที)
  • เปิดแอร์ 22 องศา ทิ้งไว้ให้ห้องเย็นฉ่ำๆ ไปเลย บวกพัดลม 2 ตัว เป่าหลัง เป่าขา
  • เตรียมน้ำ เกลือแร่ เจล และอาหารให้พร้อม จะได้วิ่งกันยาวๆ ไปเลย

โอเค เรามาเริ่มวิ่งกันเถอะ มัวแต่ทำนู่นนี่จะตี 4 แล้ว เดี๋ยววิ่งจบเที่ยงกันพอดี

เกือบจะตี 5 เราก็มาแตะ 10km แรก ก็ผ่านไปด้วยดีนะ ไปเรื่อย ๆ ประมาณเพซ 7 ครึ่ง วิวในเกมส์สวยมาก ภูเขานี่ขาวโพลนไปด้วยหิมะ

เห็นแล้วก็อยากไปเที่ยว เมื่อไหร่น้องโควิดจะหมดไปนะ

เฮโล 6 โมงเช้า 20km เกือบครึ่งทางแล้ว วิวเริ่มเห็นทุ่งหญ้าเขียว ๆ มีกังหันลงด้วย อย่างกะอยู่สวิตเซอร์แลนด์ อากาศเย็นดีมาก หมายถึงอากาศในห้องแอร์ของเราน่ะนะ

เกือบ 7 โมงเช้า 25.50km แล้ว เหนื่อยค่ะ ความเร็วเริ่มตก ขอพักกินปีโป้สักแป๊บ

7 โมงเช้า ได้ 28km ปลาย ๆ วิวสะพานสวยดี รู้สึกถึงบรรยากาศยามเช้า ซึ่งจริง ๆ มันก็เช้าแล้วแหละ แคปรูปมาโชว์สักหน่อย

8 โมงครึ่งกว่า ๆ มาโผล่ที่ชายทะเลแล้วจ้า ใกล้ความเป็นจริงแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น ในส่วนขาก็ชักไม่ไหวๆ ล้าแหละ หิวข้าวแล้วด้วย

Finally : 42.20km กับเวลา 5 ชั่วโมง 17 นาที

การทรมาณร่างกายก็ถึงจุดสิ้นสุด เราจบมาราธอนที่ 2 บนลู่วิ่งในบ้านได้แล้วเว้ย แถมดูหนังจบไป 2 เรื่องอีกต่างหาก

หลังจากวิ่งเสร็จก็ cool down และยืดเหยียดอีกสักหน่อย เพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจ ค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติ

ตัว Zwift Run เองก็ยังมี feature อื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น

  • การวิ่ง event กับเพื่อนๆ ทั่วโลกตามเวลาต่าง ๆ อันนี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับมาวิ่ง event อีกครั้งจริงๆ
  • การจัด Meetup ที่ชวน เพื่อนๆ ที่เรารู้จักมาวิ่งด้วยกัน
  • สำหรับคนที่ชอบลงลงคอร์ทวิ่ง อันนี้ก็มีโปรแกรมให้ฝึกซ้อมกัน แต่ไม่เคยลอง ยอมรับว่า … ขี้เกียจ
  • วิ่งเก็บระยะ เพื่ออัพ level ให้ได้เสื้อ กางเกง รองเท้า แว่นตา ถุงเท้า ให้เราเปลี่ยนการแต่งตัว avatar ของเราได้
    โดยปกติวิ่งทุกๆ 250 เมตร ก็จะได้คะแนนเพิ่ม บางทีมี event พิเศษๆ ถ้าลงวิ่งก็จะมีเสื้อให้ด้วย

หากใครสนใจเกี่ยวกับ Zwift Run ก็สามารถหาความรู้ใน Group นี้ได้ ยังเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่มีความน่ารัก แอดมินชอบหา challenge ให้ทำ แถมแจกรางวัลด้วย

เหมือนจะมีข้อดีมาเยอะแล้ว มาฟังปัญหาที่พบบ้าง

  • ตัว avatar มีหยุดวิ่งบ่อย แม้ว่าเราจะวิ่งสับแหลกอยู่ก็ตาม การแก้ปัญหา ก็สังเกตดูว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดหรือเปล่า (ถ้าใกล้หมดจะมีไฟสีแดงกระพริบบอก) แต่ถ้าหากแบตไม่หมดก็… วิ่งต่อไป เดี๋ยว avatar มันก็วิ่งเอง 555+
  • การ calibrate ถ้าทำไม่ดี ระยะจะเพี้ยนจากความเป็นจริง วิ่งเพซ 7 ในเกมส์อาจจะมองว่าวิ่งเพซ 9 อยู่ก็ได้ เหนื่อยแย่เลย ในทางกลับการบางทีวิ่งเพซ 11 อยู่แต่ในเกมส์อาจจะมองว่าเพซ 9 ก็ได้

เพื่อนๆ คนไหนที่มีลู่วิ่งอยู่ที่บ้าน แล้วรู้สึกการวิ่งลู่มันน่าเบื่อ Zwift Run อาจช่วยได้ ซึ่งตัว Foot Pod ราคาก็มีความน่ารักอยู่ ตัวที่ใช้ อยู่ที่ราคา 1,525 บาท ซื้อมาจาก shopee ร้าน Banana Run เนี่ยแหละ

มาที่เรื่องของลู่วิ่ง ราคาก็แล้วแต่สเปคเลย จะกี่แรงม้า สายพานกว้างยาวเท่าไหร่ ความชันปรับได้แค่ไหน แต่ตัวที่ใช้อยู่นี่ซื้อมาตั้งแต่ 5–6 ปีก่อน ซื้อมาแบบงง ๆ ราคาค่อนข้างแรงมากทีเดียว 8x,xxx เลย

สำหรับ mission ถัดไป ถ้าน้องโควิดยังไม่หาย ออกไปวิ่งข้างนอกไม่ได้ ก็คงต้องวิ่ง Ultra บนลู่วิ่งในบ้านแล้วล่ะค่ะ

วิ่งในเกมส์ เหนื่อยจริง และสุขภาพดีในชีวิตจริงนะจ๊ะ

--

--